
สถานที่มรดกทางวัฒนธรรมและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์กำลังนำมารใช้ จอแสดงผล LED ทรงกลม เพื่อถ่ายทอดประวัติศาสตร์โบราณให้มีชีวิตชีวา ด้วยการแก้ไขข้อจำกัดของนิทรรศการแบบดั้งเดิม ซึ่งมักเป็นเพียงวัตถุโบราณที่อยู่กับที่ ป้ายคำบรรยายที่เต็มไปด้วยข้อความ และขาดบริบท ทำให้ผู้เข้าชมยุคใหม่มองว่าประวัติศาสตร์ห่างไกลจากตนเอง หน้าจอ LED ทรงกลมสามารถสร้างฉากประวัติศาสตร์ในรูปแบบ 3 มิติ โอบล้อมผู้ชมไว้ในโลกของอารยธรรมโบราณ และอธิบายความสำคัญของสิ่งของโบราณในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น นิทรรศการ "Rome Reborn" ของอิตาลี ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวโคลอสเซียมในปี 2024 ได้ใช้จอแสดงผล LED ทรงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 7 เมตร ซึ่งพาผู้เข้าชมย้อนเวลากลับไปยังกรุงโรมในปี ค.ศ. 100 จอภาพนี้มีระยะพิกเซล 2.5 มม. และโหมดความสว่างต่ำ (150 ไนท์) เพื่อปกป้องวัตถุโบราณใกล้เคียง พร้อมฉายโมเดล 3 มิติของโคลอสเซียมในยุคสมัยเจริญรุ่งเรือง แสดงภาพการต่อสู้ของนักสู้กลาดิเอเตอร์ การแข่งรถม้า และฝูงชนกว่า 50,000 คน
ผู้เข้าชมใช้ชุดหูฟังความจริงเสริม (AR) ที่เชื่อมต่อกับทรงกลมเพื่อ 'เดิน' สำรวจโรมันฟอรัมในรูปแบบเสมือนจริง โดยทรงกลมจะแสดงข้อมูลประกอบ เช่น เมื่อผู้เข้าชมมองไปที่วิหารเสมือนจริง ทรงกลมนั้นจะอธิบายถึงจุดประสงค์ทางศาสนาและวิธีการก่อสร้าง ข้อมูลในหน้าจอได้รับการพัฒนาโดยความร่วมมือกับนักประวัติศาสตร์เพื่อให้มั่นใจในความถูกต้อง รวมถึงรายละเอียดอย่างสีของสีทาเดิมของโคลอสเซียม (ซึ่งจางหายไปจากโครงสร้างจริงแล้ว) และเสียงดนตรีโรมันโบราณ สำหรับสถานที่มรดก ระบบติดตั้งทรงกลมที่ไม่รุกรานเป็นสิ่งสำคัญมาก—อุปกรณ์ถูกติดตั้งบนแท่นชั่วคราวที่รองรับน้ำหนักได้ โดยไม่ทำลายพื้นผิวประวัติศาสตร์ของโคลอสเซียม ผลตอบรับจากผู้เข้าชมมีแต่ในเชิงบวก: 94% ระบุว่าทรงกลมนี้ทำให้ 'กรุงโรมโบราณรู้สึกเหมือนจริง' และ 83% รายงานว่าใช้เวลามากขึ้นในการสำรวจนิทรรศการ (เฉลี่ย 90 นาที เทียบกับ 45 นาที ก่อนมีการติดตั้งทรงกลม) สำหรับสถาบันทางวัฒนธรรม จอแสดงผล LED ทรงกลมถือเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการอนุรักษ์และแบ่งปันประวัติศาสตร์ แปลงวัตถุโบราณให้กลายเป็นประตูสู่อดีต และทำให้มรดกวัฒนธรรมสามารถเข้าถึงได้ทุกวัย