ศูนย์การศึกษาที่เน้น STEM และพิพิธภัณฑ์สำหรับเด็ก ๆ กำลังใช้จอแสดงผล LED ทรงกลมเพื่อทำให้แนวคิดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ที่ซับซ้อนเข้าถึงได้ง่ายและน่าสนใจสำหรับผู้เรียนวัยเยาว์ เครื่องมือการสอนแบบดั้งเดิม เช่น หนังสือเรียนหรือหน้าจอแบน มักมีข้อจำกัดในการสื่อสารแนวคิดแบบสามมิติ เช่น การหมุนของโลก โครงสร้างของอะตอม หรือกระแสน้ำในมหาสมุทร แต่จอแสดงผลทรงกลมสามารถแก้ปัญหานี้ได้ โดยช่วยให้เด็ก ๆ สามารถก้าวเข้าไปสู่เนื้อหาได้โดยตรง ศูนย์วิทยาศาสตร์แคลิฟอร์เนียในลอสแอนเจลิส ได้ติดตั้งจอแสดงผล LED ทรงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เมตร จำนวนสามเครื่องในพื้นที่ 'Wonder Lab' สำหรับเด็กอายุ 5–12 ปี โดยแต่ละเครื่องจัดทุ่มเทให้กับหัวข้อ STEM ที่แตกต่างกัน ได้แก่ วิทยาศาสตร์โลก ชีววิทยา และดาราศาสตร์ ตัวอย่างเช่น จอแสดงผลหัวข้อวิทยาศาสตร์โลก ฉายภาพจำลองของดาวเคราะห์ที่หมุนได้ พร้อมแสดงรูปแบบของสภาพอากาศ การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก และกระแสน้ำมหาสมุทรแบบเรียลไทม์ เด็ก ๆ สามารถใช้แผงควบคุมแบบสัมผัสขนาดใหญ่ที่ติดตั้งข้าง ๆ จอทรงกลม เพื่อทำการหมุนโลก ซูมเข้าไปที่พายุเฮอริเคน หรือแม้กระทั่งทำให้ภูมิภาคหนึ่งแห้งแล้งเพื่อสังเกตผลกระทบต่อพืมพ์พรรณ ทำให้แนวคิดเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศที่เคยเป็นนามธรรมกลายเป็นการทดลองที่เด็ก ๆ ได้ลงมือทำด้วยตนเอง
จอแสดงผลทรงกลมของศูนย์การศึกษาได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความเป็นมิตรต่อเด็กและความเข้มงวดทางการศึกษา โดยมีค่าระยะพิกเซล (pixel pitch) ที่ 3 มม. ซึ่งให้ความชัดเจนควบู่กับความทนทาน (สามารถทนต่อคราบนิ้วมือและแรงกระแทกโดยไม่เสียหาย) และความสว่างที่ปรับไว้ที่ระดับ 400 nits เพื่อปกป้องสายตาของเด็กๆ ที่ยังอยู่ในวัยพัฒนา การพัฒนาเนื้อหาได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ (Next Generation Science Standards) ตัวอย่างเช่น โดมชีววิทยา (biology sphere) จะแสดงแบบจำลองเซลล์ในรูปแบบ 3 มิติ พร้อมจุดปฏิสัมพันธ์ (interactive hotspots) ที่อธิบายหน้าที่ของไมโทคอนเดรีย ไรโบโซม และนิวเคลียส เมื่อเด็กๆ แตะเข้าไปดู สำหรับเด็กเล็ก จอแสดงผลจะมีเนื้อหาที่เรียบง่ายขึ้น (เช่น ภาพดาวเคราะห์ในรูปแบบการ์ตูน) พร้อมคำบรรยายเสียง ขณะที่เด็กโตสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้น (เช่น ข้อมูลมวลและแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์)
ผลกระทบต่อการเรียนรู้นั้นสามารถวัดได้ ศูนย์วิทยาศาสตร์แห่งหนึ่งได้ทำการศึกษาและพบว่า เด็กที่มีปฏิสัมพันธ์กับจอภาพทรงกลมสามารถจดจำข้อมูลเกี่ยวกับระบบสภาพอากาศของโลกได้มากกว่าเด็กที่ใช้หนังสือเรียนแบบดั้งเดิมถึง 60 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ครูยังใช้จอทรงกลมเหล่านี้ในการจัดกิจกรรมกลุ่ม เช่น ในหนึ่งบทเรียน นักเรียนจะแบ่งเป็นทีมเพื่อ 'ติดตาม' พายุเฮอริเคนเสมือนจริงบนจอทรงกลมโลก โดยทำนายเส้นทางของพายุและอธิบายเหตุผลของตนเองต่อหน้าชั้นเรียน พ่อแม่หลายท่านรายงานว่าลูกๆ มักขอพาไปกลับไปที่ห้องทดลอง Wonder Lab โดยเฉพาะเพื่อใช้งานจอทรงกลมเหล่านี้ โดยมีหลายคนเล่าต่อว่า จอภาพเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการสนทนาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ภายในบ้าน การใช้จอ LED ทรงกลมในการเรียนรู้ STEM ทำให้การเรียนรู้มีความสมจริงและมีปฏิสัมพันธ์สูง ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ เติบโตเป็นนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และผู้แก้ปัญหาในอนาคต ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีสามารถเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการศึกษาได้